พิม+ยุ่น หวานๆ อิ่มๆ ณ โตยาม่า :) วันที่ 1
ในที่สุด…ช่วงเวลาที่รอคอยก็มาถึงซะที…ฮูเร่!!!!
.
.
.
.
.
คือช้างยุ่นเคยมาบอกไว้ตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อน ว่าต้นเดือนกันยา จะมีประชุมวิชาการของ community นักฟิสิกส์ และวิศวะแห่งประเทศญี่ปุ่น
.
.
.
.
.
หรือที่ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า “โอโยบุทซึริกักไค” (応用物理学会) หรือ…ที่คนในวงการเค้าเรียกกันสั้นๆว่า “โอบุทซึ”
.
.
.
.
.
ซึ่งโอบุทซึ จะถูกจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง ในช่วงเวลาที่ต่างกัน คือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูใบไม้ร่วง (ง่ายๆคือ ทุกครึ๋งปีนั่นเอง)
.
.
.
.
.
โดยที่การประชุมในช่วงฤดูใบไม้ผลินั้น สถานที่จัดประชุมจะอยู่ในโตเกียว หรือไม่ก็ปริมณฑล ส่วนการประชุมในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้น จะจัดตามจังหวัดต่างๆผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป
.
.
.
.
.
ซึ่งสถานที่จัดโอบุทซึประจำฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้ คือจังหวัด “โตยาม่า” (富山) และช้างยุ่นบอกว่าจะแพคพิมใส่กระเป๋าไปด้วยยยยยยยยยยย…เย่ๆๆๆๆ 🙂
.
.
.
.
.
ช้างยุ่นบอกว่า…เตรียมฟิตกระเพาะให้แข็งแรงงงงเลยนะ…เพราะจะพาไปทานของอร่อยๆเยอะมากๆ
.
.
.
.
.
แล้วก็จะพาไปเที่ยวหมู่บ้าน “ไอโนะคุระ” (相倉) ซึ่งได้รับเลือกจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลกด้วย
.
.
.
.
.
ตื่นเต้นดีใจมากๆ ตั้งหน้าตั้งตารอออออออออ…เมื่อไหร่หนอจะถึงต้นเดือนกันยายน…ที่ดูตื่นเต้นแบบโอเวอร์ขนาดนี้ไม่ใช่อะไร คือนอกจากจะได้ไปหวีดหวาน และเที่ยวแบบสุดเหวี่ยงแล้ว การเดินทางครั้งนี้ จะเป็นครั้งแรกของพิมด้วยที่จะได้ขึ้น ชิงกันเซ็น !!!!
.
.
.
.
.
ฮ่าๆ จริงๆก่อนหน้าที่จะมาอยู่ญี่ปุ่นนี่เคยมาเที่ยวญี่ปุ่นตั้ง 4 รอบ…แต่ทุกครั้งก็คืออยู่แต่ในโตเกียว และปริมณฑล ไม่เคยเดินทางไปต่างจังหวัดไกลๆ ก็เลยไม่เคยมีโอกาสได้นั่งชิงกันเซ็นซะที
.
.
.
.
.
แล้วมันเหมือนเป็นความหลังฝังใจวัยเด็ก…คือครั้งแรกที่มาญี่ปุ่นคือตอน ม.2 ตอนนั้นได้แต่ถ่ายรูปตอนชิงกันเซ็นวิ่งผ่าน ให้ตายสิ มันเท่ห์มากๆ เรียวๆเพรียวๆ ดูอวกาศๆ และยิ่งเท่ห์ขึ้นไปอีกเมื่อเทียบกับคุณพี่ ร.ฟ.ท. ของบ้านเราในสมัยนั้น
.
.
.
.
.
คิดมาตลอดดด ว่าซักวันนึงอยากจะนั่งให้ได้…ถึงตอนนี้จะไม่ได้เป็นรถไฟที่เร็วที่สุดในโลกแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นความฝันวัยเด็ก…ที่อยากจะทำให้เป็นจริงมาตลอด…
.
.
.
.
.
………………………………………………………………………………………………..
และแล้ว…วันที่รอคอยก็มาถึงงงงงง
.
.
.
.
.
วันจันทร์ที่ 7 ก.ย. 52
เช็คความเรียบร้อยของสัมพารก!!! กระเป๋าลาก 1 ใบ เป้สะพายหลัง 1 ใบ และถุงใส่สูท
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
รูปคู่หน่อยเร้ววววว
.
.
.
.
.
หน้าตาดูระรื่นกว่าทุกครั้งงงง
.
.
.
.
.
ช้างบอกว่า เบามากๆไม่หนักเลย ให้ควานขึ้นมาขี่คอไปแล้วลากซุงไปด้วยก็ยังได้
.
.
.
.
.
นั่งรถไฟจากสถานีทะไคโดะหน้าบ้าน มาลงที่สถานีคิจิโจจิ (สายเคโอ-อิโนคะชิระ)
ก่อนที่จะเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟของJR สายชูโอ ช้างยุ่นแวะร้านเบเกอรี่ประจำของพิมซื้อขนมปัง และน้ำผลไม้ให้หนึ่งชุดเพื่อรองท้อง 🙂
เพราะกว่าจะเดินทางไปถึงสถานีโตเกียวเพื่อไปขึ้นชิงกันเซ็งก็อีกตั้งครึ่งชม.
(สงสัยกลัวเค้าโมโหหิวจัดใช่มั้ยล่ะ!!!)
.
.
.
.
.
จะขึ้นรอบนี้ทันมั้ยยยย
.
.
.
.
.
ไงล่ะ…มัวแต่ยืนถ่ายรูป เลยชวดเลยยย…แต่ไม่เป็นไร อีกแป๊บเดียวขบวนถัดไปก็มา
ระหว่างยืนรอก็เลยจัดการหม่ำเบเกอรี่ให้ราบบบ
.
.
.
.
.
ช้างยุ่นพกพิม…พิมเลยพกลูกชาย กับลูกสาว ลูกชัยลูกอิ๋วสุดที่รักมาเที่ยวด้วยย
ดูสิ…ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กันใหญ่เลยนะ 🙂
.
.
.
.
.
มาถึงแล้ววววว…สถานีโตเกียวที่รัก
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ลงมาถึงตัวสถานี…มาเจอร้านขายของ…เห็นชื่อร้านเลยรีบถ่ายมาฝากพี่สาวสุดที่รัก ฮิๆๆ
.
.
.
.
.
สถานีโตเกียวเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ สามารถเรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของโตเกียว
ผู้คนเลยพลุกพล่านมากๆ ยิ่งช่วงวันหยุดนี่ไม่ต้องพูดถึง…คนจะเหยียบกันตายให้ได้
คนที่มาญี่ปุ่นใหม่ๆ ถ้ามาเปรี้ยวมานัดเพื่อนที่สถานีโตเกียวนี่ บอกได้เลยว่าสามารถหลงเอาได้ง่ายๆ
.
.
ชิงกันเซ็นอยู่ที่ชานชลาหมายเลข 14 – 23
ขบวนของพิมกับยุ่นชานชลาที่เท่าไหร่ก็ยังไม่รู้ ต้องไปเช็คเอาจากหน้าจอ
.
.
.
.
.
ด้วยความที่ไปถึงสถานีโตเกียวเร็วว่าเวลาตั้ง 2 ชม. ก็เลยมีเวลาเดินชิลดูโน่นนี่
ลงบันไดเลื่อนจากตัวสถานีลงมา จะเจอกับที่ shopping และ cafe มากมาย
.
.
DEAN & DELUCA นี่เป็นร้านกาแฟดังในญี่ปุ่น…
จริงๆกาแฟก็งั้นๆนะ ขมๆแปลกๆ เคยดื่มเมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้เลิกกาแฟถาวรแล้ว 🙂
แต่ที่บอกว่าดัง เพราะว่าร้านนี้เค้าทำ ECO-Bag ออกมาขายแล้วสาวๆญี่ปุ่นฮิตหิ้วกันมากๆ
วันนั้นไปถึงร้านก็เกือบสอยมาบ้างแล้ว แต่สุดท้ายก็ถอดใจ เพราะที่บ้านก็มีอยู่ตั้งหลายใบ
ถ้าซื้อมาอีกก็จะเอามารกบ้านเปล่าๆ (ชิ…ทำเป็นคิดได้ จริงๆแล้วขี้เกียจหอบขึ้นรถลงเรือไปด้วยก็บอกมาสิ!!!)
.
.
.
.
.
ร้านขายของฝาก…ละลานตามากๆ
ขนม และของดังจากทั่วประเทศมีขายที่นี่หมด
.
.
.
.
.
งืมมม แค่เห็นรูปก็น้ำลายไหลแล้ว…
.
.
เดินช้อปได้ขนมมาหนึ่งอย่างก็หา cafe นั่งฆ่าเวลา
.
.
.
.
.
นี่คือขนมที่ซื้อมา…ฮิๆ จะเอาไว้ทานกับชาตอนไปถึงโตยาม่า
.
.
.
.
.
ไม่ได้โม้นะ…เลิกกาแฟแล้วจริงๆ!!
.
.
.
.
.
เบเกอรี่ตอนเช้ายังไม่อิ่ม…ขอตบด้วยครัวซองท์อีกชิ้นแล้วกัน
จะชิ้นใหญ่ไปไหน!!! (แล้วหมดมั้ยล่ะ…แหมมมทำเป็นบ่น)
.
.
.
.
.
พอทานอิ่ม…ก็เดินซื้อเบนโตเพื่อเอาขึ้นไปทานระหว่างนั่งชิงกันเซ็น
ซื้อเสร็จก็ขึ้นมาดูว่ารอบรถชิงกันเซ็นของเราต้องขึ้นไปที่ชานชลาหมายเลขที่เท่าไหร่
.
.
นั่นเลย ชื่อขบวน โทะคิ (とき) หมายเลข 319…โอเช…ชานชลาหมายเลข 20 ตอน 11: 12 น.
.
.
.
.
.
เจอเพื่อนนนนน ทักทายกันเล็กน้อย
.
.
.
.
.
เป็นช้างต้องอดทน!!
.
.
.
.
.
ยังไม่ถึงเวลา…แต่ขึ้นไปรอเลยก็แล้วกัน
.
.
.
.
.
ขึ้นไปปุ๊บ…ลงมาปั๊บ เพราะลืมไปว่าอยากจะเข้าห้องน้ำ!!!
เลยได้ถ่ายรูปคู่มาเก็บไว้
.
.
.
.
.
ขึ้นมาอีกรอบ…
มองไปด้านซ้าย…
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด….ลายโปเกม่อนด้วยง่ะ
แล้วขบวนของเราล่ะจะมีมั้ยๆๆๆๆ
.
.
.
.
.
เย่ๆๆ ขบวนของเราก็มี!!!!
ยังงงงง!!! นี่ยังไม่ใช่ขบวนเราซักหน่อย
.
.
.
.
.
ตื่นเต้น…ถ่ายด้วยๆ (รูปนี้หน้าบานๆ)
.
.
.
.
.
ไม่มีคนแล้ว ช้างยุ่น อีกรูป เร็วเข้า!!! (อะไรจะเห่อ!!!!)
.
.
.
.
.
ขอรูปคู่ด้วยยยย…
ฮ่าๆ แต่หัวช้างยุ่นดันไปบังน้องปิ๊กกาจู้ง่ะ
.
.
.
.
.
มีช้างหนึ่งตัวสบายไปล้านอย่าง โฮะๆๆๆ
ไม่ต้องมาตีหน้าเศร้านะ ถือไป!!!
.
.
.
.
.
โอ๊ะ…เจอแฝด
.
.
.
.
.
ภูมิใจในตัวเอง…ครั้งนี้โพสได้เหมือนมากกก ฮ่าๆๆ
คนงี้มองเพียบ…แต่ไม่เคยอายยอยู่แล้ววว…คนต่างชาติ…ทำไรแปลกๆไม่ผิดหรอก (เหรออออออ???)
.
.
.
.
.
ในที่สุดขบวนของเราก็มาถึงแล้ว…รีบถ่ายรูปเร็วเข้า เดี๋ยวต้องโดดขึ้นรถแล้วค่า
.
.
.
.
.
ฮ่าๆ ชุดคุณยายคนนี้แบบว่าเร้าใจมากๆ…ขอเน้นนะคะว่าเป็นรุ่นคุณยายอ่ะ
.
.
.
.
.
จับลูกสาวกับลูกชายถ่ายรูปคู่กับรถไฟชิงกันเซ็น
.
.
.
.
.
ฮิๆๆๆ ถ่ายรูปครอบครัวในวันที่ไม่มีขาตั้งกล้อง
.
.
.
.
.
ท้องฟ้าสดใสของโตเกียว ก่อนขึ้นรถไฟ
.
.
.
.
.
ขึ้นมาแล้วววววววววววววววววววว…กรี๊ดดดดดดดดดด
(เวอร์ไปละๆ)
.
.
.
.
.
น้ำตาจะร่วง…ฝันตั้งแต่ตอนม.2 เป็นจริงแล้วค่าาาาาาาาา
.
.
.
.
.
สวยแค่ด้านนอก…ฮ่าๆ ข้างในก็งั้นๆ ความรู้สึเหมือนรถทัวร์ไฮโซ
.
.
.
.
.
แต่ถึงยังไงก็ตื่นเต้นอยู่ดี
.
.
.
.
.
เล่น twitter ไปพลางๆ
.
.
.
.
.
อากาศข้างนอกดีสุดๆ
.
.
.
.
.
ฮ่าๆ…นั่งไปซักพัก…ท้องร้องอีกแล้ววววววววววว
.
.
.
.
.กล่องนี้ของพิม…เดินเลือกอยู่นานมากกกกกก
ตื่นเต้นๆๆ อยากเปิดแล้ววววววววว จะน่ารัก น่าอร่อยเหมือนในรูปมั้ยนะ
.
.
.
.
.
ข้าวกล่องช้างยุ่นนี่ก็ดูไม่ธรรมดาาาาาา…น่าหร่อยๆ
.
.
.
.
.
ไข่ตุ๋นก็น่าทานนนนน
.
.
.
.
.
แต่ยังไงก็สู้ของพิมไม่ได้ ดูซะ!!! โฮะๆๆ สุดยอดง่ะ…มาดูใกล้ๆกันดีกว่า
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ของหวาน
.
.
.
.
.
ของดังของเซนได
.
.
.
.
.
มีหูฉลามด้วยยยยย
.
.
.
.
.
มะเขือม่วงดอง…อร่อยสุดๆ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เยอะแยะมากหมายหลายช่อง…
แล้วหมดมั้ย…
จะเหลือหรอ…ราบบบบค่ะ!!!
.
.
.
.
.
ซูมให้กล่องช้างหน่อย…เดี๋ยวน้อยใจจจจจ
งืมมม ก็น่าทานไม่เบาาาาา (แต่ยังไงก็แพ้ของเค้านะ)
.
.
.
.
.
อิทะดาคิมัส…สุหรุ!!!
.
.
.
.
.
ง้ามมมมมมมมมมมมมมม
.
.
.
.
.
ก้อนเมฆน่ารักจัง
.
.
.
.
.
อิ๋ว กะชัยสนุกกันใหญ่
.
.
.
.
.
ลงจากชิงกันเซ็นแล้วค่า…
นั่งไป 1 ชม. ตอนนี้มาถึงสถานีเอจิโกะยูซาว่า (越後湯沢) จังหวัดนีงาตะ เพื่อต่อรถไฟไปโตยาม่า
.
.
.
.
.
คราวนี้ขึ้นขบวนชื่อ ฮาคุทากะ (はくたか)
วิ่งหน่อย…เวลางวดเข้ามาแล้ว
ไม่ค่อยชอบเวลาต่อรถแบบนี้เลย ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้เวลาน้อยนิด…ยิ่งพวกเครื่องบินนี่ยิ่งหนัก
เคยต้องวิ่งแบบหน้าตาตื่นขึ้นเครื่อง เพราะ gate ที่ลงมา กับ gate ที่ต้องบินไป อยู่ห่างกันมาก
แล้วต้องไปต่อที่สนามบินนานาชาติของประเทศที่ไม่เคยไปมาก่อน
ปวดหัวมากๆ
แต่นี่เป็นรถไฟ…ดีหน่อย เพราะชานชลามันไม่ได้อยู่ไกลกันมาก
แต่ก็ให้เวลานิดเดียว แบบประมาณว่าไม่ถึงสิบนาที ก็ต้องวิ่งเหมือนกัน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ขบวนนี้แหละค่า…ขึ้นโลดดดดดด
.
.
.
.
.
มุ่งหน้าไปตู้เบอร์ 4
.
.
.
.
.
มาถึงที่นั่งแล้ว
.
.
.
.
.
นั่งต่อไปอีกสองชม.
.
.
.
.
.
นั่งไป เม้าท์กันไป เล่น iPhone ไป สนุกสนาน…เวลาผ่านไปเร็วมาก
.
.
.
.
.
เย่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
หยัดเต๊ะไมริมาชิตะ!!!!!
มาถึงแล้วค่าาาาา
.
.
.
.
.
ขอบคุณนะคะคุณรถไฟ…ที่พามาถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ
.
.
.
.
.
ช้างต้องลากซุงขึ้นบันได…น่าสงสารจริงๆ ฮึบๆๆ สู้ๆนะช้างงงงยุ่นนน
.
.
.
.
.
เจอรถไฟหน้าตาน่ารักวิ่งผ่านมาพอดี…รถไฟที่ตจว.นี่น่าตาแปลกๆน่ารักเยอะมาก
เคยดูรายการหนึ่ง เค้าทำเกี่ยวกับเรื่องโอตากุที่บ้าคลั่งเกี่ยวกับเรื่องรถไฟในญี่ปุ่น
มีคนนึง…สุดยอดมาก…คือ เคยนั่งรถไฟมาแล้วทุกประเภท ทุกขบวนในญี่ปุ่น!!!!!!!!!!
ไม่ว่าจะเป็นชิงกันเซน(รถไฟหัวกระสุน ความเร็วสูง) เด็งฉะ(รถไฟฟ้า) เร็ทฉะ(รถไฟธรรมดา)
.
.
ที่ญี่ปุ่นจะมีพวกโอตากุที่คลั่ง หรือเชี่ยวชาญในเรื่องโน้นนี้นั้นเยอะแยะไปหมด
คนต่างชาติมักจะมี image แย่ๆเกี่ยวกับพวกโอตากุ
เพราะได้รับอิทธิพลทางความคิดมาจากการอ่านจากหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น
เนื่องจากในการ์ตูนมักจะเขียนอ้างถึงพวกโอตากุในมุมโรคจิตๆ ดูเป็นคนแปลกๆ เก็บตัว
เช่น พวกคลั่งการ์ตูนอะนิเมชั่น หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกแค่สั้นๆว่า “อะนิเมะ”
หรือโอตากุคลั่งการอ่านหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น หรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียก “มังง่ะ”
คือ…ในสมัยก่อน คำว่าโอตากุ อาจจะดูแรง และมีความหมายไปในเชิงลบ
แต่จากการสังเกตตั้งแต่อยู่ญี่ปุ่นมา ทำให้ได้รู้ว่า โอตากุ ไม่ได้แย่อย่างที่คิด
ปัจจุบันมีการใช้ในความหมายที่กว้างขึ้น คือ รวมถึงพวกที่ คลั่งอะไรซักอย่างมากๆด้วย ง่ายๆคือ
พวกที่บอกว่าตัวเองเป็น…mania คลั่งการดู คลั่งการฟัง คลั่งการซื้อ หรือคลั่งการสะสมอะไรบางอย่าง
ก็สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นโอตากุได้แล้ว
.
.
.
อย่างในแล็บยุ่น มีเพื่อนนักวิจัยคนนึงเป็นพวกคลั่งรถไฟ ภาษาญี่ปุ่นเค้าเรียกว่า
เทะทซึโดโอตากุ (鉄道オタク)
ซึ่งจะใช้เวลาว่างของตัวเองทั้งหมดไปหมกมุ่นอยู่กับการสะสมโมเดลรถไฟ อะไรที่เกี่ยวกับรถไฟนี่แกซื้อหมด
และ…ท่องตารารถไฟทั่วประเทศ!!!
อย่างถ้าอยากจะรู้ว่า จากสถานีหน้าบ้านพิม ไปฮ็อกไกโด ด้วยระยะทางที่สั้นที่สุดนี่แกสามารถบอกได้เลยว่า
ต้องขึ้นรถไฟตอนกี่โมง ต่อสายไหน ไปยังไง…
.
.
.
จริงๆก็ไม่ใช่ว่าจะบ้าคลั่งจำกันไปแบบไร้ความหมายนะคะ เพราะเค้าก็จะมีการแข่งขันกันระหว่างพวกโอตากุด้วย
จริงๆก็น่าจะคล้ายกับแฟนพันธุ์แท้บ้านเราน่ะแหละ เพียงแต่เหนือชั้นกว่าหน่อย
.
.
.
ที่เสียบตั๋วออกยังเป็นระบบยื่นให้พนักงานสถานีอยู่เลย
แสดงถึงความไกลปืนเที่ยง
แต่ดีนะ…ดูไม่เย็นชา…คือได้มีปฎิสัมพันธ์กับผู้คนบ้าง
อะไรที่เป็นอัตโนมัติมากๆก็ไม่ไหว อย่างที่โตเกียวนี่ผู้คนเย็นชา ไม่มีใครยุ่งกับใคร
อย่ามาทำอะไรชักช้าน่ารำคาญ ทุกชีวิตดูเร่งรีบ
ยิ่งได้มาตจว.อย่างนี้ ยิ่งเห็นความแตกต่าง
.
.
.
.
.
ออกมาแล้ว นอกสถานี
และตึกสูงที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ก็คือโรงแรมที่จะใช้ไว้ซุกหัวนอนตลอดทริปนี้
ฮ่าๆ อะไรจะวิเศษ ไม่ต้องเดินไกล ออกมาจากสถานีก็ถึงโรงแรมเลย
.
.
.
ช้างยุ่นบอกว่า นี่คือสาเหตุนึงที่เลือกมาโดยรถไฟ
คือจริงๆแล้ว นักวิจัยคนอื่นในแล็บ เค้ามาโดยเครื่องบินกันหมด เพราะเดินทางแค่ชม.เดียว
แต่ยุ่นบอกว่า พวกนั้นอาจจะลืมคิดไปหน่อยรึเปล่า ว่าไหนจะต้องนั่งรถทัวร์ หรือรถไฟไปสนามบินฮาเนดะ
ต้องไปก่อนเวลาเครื่องออกเป็นชม.ๆ แถมพอลงจากเครื่องก็เสียเวลารอรับกระเป๋า แล้วก็ต้องนั่งรถเมล์เข้ามาในตัวเมืองโตยาม่าอีก
มารถไฟแบบพิมกับยุ่นนี่ อาจจะลำบากตอนต่อรถไฟ แต่สะดวกมากๆคือรถไฟมาเกยอยู่หน้าโรงแรมเลย
แถมได้ชมวิวสวยๆตลอดทาง
อยู่บนเครื่องบินจะเห็นอะร้ายยยยย…ฮิๆๆ
.
.
.
.
.
ถ่ายรูปกับหน้าสถานีเวอร์ชั่นขี้เกียจเดินไปใกล้ๆ เพราะแดดแรงมากๆ อยากรีบไปโรงแรมแล้ว
.
.
.
.
.
ออกมาจากสถานี ทางด้านซ้ายมือใกล้ๆกัน (คือจริงๆแล้วมันก็อยู่ติดกับสถานีเลยแหละ) มีห้างขนาดใหญ่ ชื่อ Marier
พิมรีบเล็งไว้เลย เพราะวันพรุ่งนี้ที่ช้างยุ่นไปทำงาน พิมจะมาสิงอยู่ที่นี่แหละ
ลูกสาวคูแม่แมวน้ำซะอย่าง…ฮ่าๆ วิญญาณผีช้อปปิ้งตามห้างสิงได้ทุกเมื่อ…
สามารถเดินห้างได้เป็นวันๆ ทุกร้าน ทุกชั้น ทุกแผนก เดินได้ไม่มีเบื่อ
.
.
.
.
.
มัวแต่ถ่ายรูปให้ภรรยา…ปล่อยกล้องได้แล้ว เค้าถ่ายให้บ้าง!!!
.
.
.
.
.
แค่ข้ามไฟแดง 2 ไฟแดง…ก็ถึงโรงแรมแล้ว สะดวกจริงๆ!!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ถึงโรงแรมแล้วจ้าาาาาา…
นั่งพักเหนื่อยกันแป๊บนึง ตากแอร์เย็นฉ่ำ จิบชาเขียว พร้อมกับทานขนมที่ซื้อมา!!!!
แกะเลยๆๆๆ
.
.
.
.
.
package สินค้าของญี่ปุ่นนี่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง…เนี้ยบตลอด
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ฮ่าๆๆ มันคือ คุ้กกี้ค่าาาาาาาา….อาจจะดูธรรมดา แต่รสชาติเยี่ยมมากๆ
เข้ากับชาเขียวร้อนสุดๆ อร่อยๆ
ตอนแรกกะว่าจะเอาไว้ทานตอนเช้าของทุกวันกับชาร้อน
แต่พอเปิดกล่องปุ๊บ…
แร้งก็ลงกันสองตัว…จนราบบบบบบบบบบบบบบบบ -_-‘
.
.
.
จากนั้นก็อาบน้ำให้สดชื่น แล้วก็ลงไปเดินเล่น และตระเวณหาร้านอาหารกัน หิวแล้วๆๆ
.
.
.
ท้องฟ้าสดใสมากกกกกกกกกกกกก
.
.
.
.
.
เมืองเค้ามีรถรางด้วยน้า…สีชมพูซะด้วย น่ารักที่สุด
พรุ่งนี้ช้างยุ่นก็ต้องนั่งรถรางไปประชุมที่มหาวิทยาลัยโตยาม่า
เห็นยุ่นบอกว่า 200 เยน ตลอดสาย
.
.
.
.
.
ฮ่าๆ หน้าตาน่ารักสุดๆ ดูเป็นกุลสตรีมากมาย
.
.
.
.
.
เห็นรูปปั้นอย่างงี้แล้วทนไม่ได้จริงๆ ต้องขอเข้าไปมีส่วนร่วมนิดนึง
.
.
.
.
.
ช้างยุ่นงี้ตัวดีเลยอ่ะ เวลาเห็นอะไรโรคๆแล้วชอบไล่ให้ไปถ่ายรูปด้วย -_-‘
ถ่ายรูปไปก็หัวเราะตัวอ่อนตัวงอไป…เฮ้อ จะบ้าตาย
ไม่หรอก…จริงๆแล้วพิมนี่ตัวชอบเลย ประหลาดดี ฮ่าๆ ชอบๆ
แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเวอร์ชั่นทำท่าทางเลียนแบบมากกว่า
แต่บางทีก็แอบกลัวนะ
ว่าไอ้ที่ไปทำท่าทางล้อเลียนเค้านี่ คือเป็นสิ่งสำคัญ หรือเคารพบูชาของประเทศเค้ารึเปล่า
กลัวโดนรุมยำเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นก่อนถ่ายรูปทุกครั้ง ก็จะพยายามพิจารณา หรือไม่ก็รีบถ่ายอย่างรวดเร็วแล้ววิ่งหนีไป ฮิๆ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ออกมาจากโรงแรม…เดินวนไปเวียนมาก็ยังไม่เจอร้านที่ถูกใจ…
ก็เลยบอกช้างยุ่นว่า ลองเดินไปหลังโรงแรมกันมั้ย
แล้วก็…บิงโก!!!!!! ในที่สุดก็เจอร้านนึง…ดูเล็กๆ แต่อบอุ่น…ดูจากหน้าร้านแล้วไม่น่าจะผิดหวัง
.
.
.
.
.
เตรียมตัวเช็ดน้ำลายกันได้แล้วนะค้าาา…ฮิๆๆ
.
.
.
.
.
น้ำชาในแก้วเบียร์
จริงๆนะ ไม่ได้โม้…เลิกดื่มกาแฟแล้ว…โปรเจคต่อไปคือเลิกเหล้าเบียร์
ฮ่าๆ ต้องทำให้ได้ เพราะจะได้จวกคนที่อยู่ข้างๆให้เลิกให้ได้!!!
เท่ห์จะตาย…เข้าร้านเหล้า แล้วสั่งน้ำชา
.
.
.
.
.
กุ้งญี่ปุ่นไม่แพ้ๆๆ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
คนญี่ปุ่นนี่โชคไม่ดีอย่างคนไทยที่มีน้ำจิ้มทะเลรสเด็ด
เมื่อกี๊ตอนทานกุ้งนี่กรี๊ดมากๆ คือเนื้อกุ้งแน่นมาก สดสุดๆ
เสียอย่างเดียว…น่าจะมีน้ำจิ้มทะเล
ทานไปก็บ่นให้ช้างยุ่นฟังไป
.
.
บนโต๊ะอาหารนี่มีแต่โชหยุวางอยู่…ซึ่งเค้าก็ไม่ได้เอาไว้จิ้มเนื้อกุ้งเนื้อปลาเนื้อหอยแต่อย่างใด
แต่เอาไว้ทานกับซาชิมิ
.
.
อาหารส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นนี่จะไม่ค่อยมีน้ำจิ้มอะไรเหมือนบ้านเรา
คือเค้าจะให้ความสำคัญกับรสชาติดั้งเดิมของอาหารมากๆ
คือพยายามปรุงแต่งรสชาติให้น้อยที่สุด
อย่างมากก็อาจจะแค่มีเกลือให้จิ้ม
.
.
.
.
.
เมนูแรก…เป็นของดังของโตยาม่าเลย
ชื่อ เก็งเกะคาระอะเกะ
บีบมะนาวให้ทั่ว…แล้วก็จิ้มเกลือ
เก็งเกะ นี่คือชื่อของปลา
เนื้อปลานุ่มมากๆ แทบจะละลายในปาก…
.
.
.
.
.
ต่อไป…ซาชิมิ โมริอาวาเสะ (โมริอาวาเสะ…แปลว่า จานรวม)
จานนี้นี่…ตอนแรกพิมบอกช้างยุ่นว่า ขอบาย…เพราะไม่ชอบปลาดิบ
ตั้งแต่มาญี่ปุ่นนี่เคยทานอยู่แค่ไม่กี่ครั้ง
ซึ่งทั้งหมดเป็นการทานในสถานการณ์ที่ไม่สามารถเลี่ยงได้
เช่นไปทานข้าวกับเจ้านายคนญี่ปุ่นของยุ่น หรือคุณพ่อชาวญี่ปุ่นของเพื่อน
เค้ายื่นให้ ก็ต้องกลั้นใจทาน
.
.
.
คือพิมไม่ไหวกับพวกของดิบๆ มันจินตนาการโรคจิตไปต่างๆนานา ฮ่าๆ
เช่นแบบ…กลัวมันจะเข้าไปแหวกว่ายต่อในกระเพาะเรา…(เฮ้อ…จิตมากๆอ่ะ)
แล้วอีกสาเหตุนึงที่สำคัญคือ กลิ่นมันจะคาวๆ แหวะๆ ไม่ไหวๆ
.
.
.
แต่จานนี้นี่…ช้างยุ่นการันตี บอกว่าดูสดน่าอร่อยมากๆ
และรับรองว่าไม่คาวเหมือนที่โตเกียวแน่นอน…เพราะนี่เมืองทะเล
.
.
.
คะยั้นคะยออยู่ซักพัก เลยลองดู
.
.
.
พอลองทานดูเท่านั้นแหละ…โอ้ววว…เปลี่ยนโลกเลยค่ะ
มันอร่อยมากๆ
เนื้อแน่น…ไม่คาว อร่อยยยยยยยยยยย!!!!!!!
พิมเลยกวาดคนเดียวแทบจะราบ
ช้างยุ่นได้แต่มองตาปริบๆด้วยความมึนงง…
.
.
.
.
.
ดูสิ…น้องกุ้งน่ารักมั้ยคะ
.
.
.
.
.
มีเปลือกหอยตกแต่งจานมาด้วย
.
.
.
.
.
โฮะๆๆ
.
.
.
.
.
สั่งซุปมาซดให้คล่องคอหน่อย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
โว้ววววว
.
.
.
.
.
เนื้อแน่น กล้ามโต๊โต
.
.
.
.
.
แงะๆแคะๆ…อร่อยที่สูดดดดดดดดด
.
.
.
.
.
ของเค้าสดจริงๆ!!!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
จุดนี้ต้องเปิบด้วยมือเท่านั้น!!
.
.
.
.
.
ปลาย่างเกลือ
.
.
.
.
.
เหลือแต่กระดอง
(ทำไมต้องทำหน้าโหดด้วยล่ะคุณปู…)
.
.
.
.
.
วันนี้ทานแบบผู้ดี…คือไม่ได้อิ่มพุงกางแทบจะต้องกลิ้งขึ้นโรงแรม
จริงๆแล้วไม่ได้อยากจะเป็นผู้ดีอะไรกันหรอก แต่ว่าพรุ่งนี้คุณช้างยุ่นมี present สำคัญ เลยต้องรีบกลับมาซ้อมพรีเซนต์
แล้วก็ต้องรักษาร่างกายด้วย เดี๋ยวไปอาหารเป็นพิษ ท้องเสียท้องร่วง ไม่สบายขึ้นมาแล้วจะเศร้า
.
.
.
.
.
ก่อนขึ้นห้อง เดินข้ามถนนไปแวะคอนบินี่ (ร้านสะดวกซื้อ) แถวโรงแรม ซื้อน้ำ และคัพนู้ดเดิ้ล ฮ่าๆ เผื่อหิวกลางดึก
.
.
.
.
.
ถึงโรงแรมแล้ว…อิ่มง่วงมากๆ แต่ยังนอนไม่ได้
เพราะว่าต้องเป็น coach ซ้อมพรีเซนต์ให้ช้างยุ่น
.
.
.
พรุ่งนี้คุณช้างต้องพรีเซนต์สิบนาที แล้วฮีเป็นโรคจิตอย่างหนึ่ง…คือเค้าบอกสิบนาที ก็ต้องซ้อมให้ได้สิบนาที
ช้างยุ่นอ้างว่า คนญี่ปุ่นเค้า concern เรื่องเวลามากๆ
ก็รู้…ว่าเค้าให้ความสำคัญเรื่องเวลา…จริงๆก็ไม่ใช่แค่ญี่ปุ่นหรอก มันก็แทบทุกชาติน่ะแหละ
แล้วก็เป็นเรื่องดี ที่เราเป็นคนรักษาเวลา
.
.
.
แต่เกินมาแค่สิบกว่าวิ…แหม มันจะอะไรนักหนา…หึ่ยยยย
.
.
.
คือพิมนี่ช่วยซ้อมพรีเซนต์ให้ยุ่นมาตั้งแต่สมัยเรียนโทโน่นนนนน…ยันจบเอก
ตอนอยู่ไทย ก็ออนไลน์ซ้อมข้ามประเทศ ไม่ได้หลับได้นอน
.
.
.
ความโรคจิตเรื่องเวลาต้องเป๊ะๆนี่เป็นมาตั้งแต่สมัยโน้น จริงๆแล้วพูดได้โอเคตั้งนานแล้ว
แต่เวลาเลยไปแค่สิบห้าวิ ก็ต้องซ้อมๆๆ จนได้เวลาเป๊ะๆ
สรุปว่าพี่เค้าซ้อมไปไม่รู้กี่สิบรอบ
.
.
.
ไอ้คนฟังนี่ฟังจนแทบจะพูดแทนได้
.
.
ซ้อมกันถึงเกือบๆห้าทุ่มก็เข้านอน…เป็นอันหมดหนึ่งวันที่โตยาม่า
.
.
.
.
.
โฮกกกก เป็นบล็อกที่ถึกมากกกกกกกกกกกกกกก
นี่เพิ่งจะจบไปแค่วันแรกงั้นหรอ
ฮ่วยยยย…เหลืออีกตั้งสามวัน เดี๋ยวค่อยๆทะยอยอัพก็แล้วกันเนาะ
โอ้ววววววววววว มันเป็นบล๊อกที่ยาวมากกกกกกกๆ
มิน่าล่ะ ช่วงนี้เห็นภรรยาดูยุ่งๆ ฮ่าๆๆ
อ่านแล้วยั่งกะว่ายังอยู่ที่โตยาม่าอยู่เลยยะเนี่ย
เป็นทริปที่สนุกมาก ดีใจที่ได้เห็นพิมยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดสี่วันที่อยู่ที่โน่นนน
ที่สําคัญคือ….สามารถทำให้พิมทานปลาดิบได้แล้ววววววววว
เมื่อก่อนจะเอาแต่พูดว่า ไม่กินเด็ดขาด ใครจะกินของดิบๆเลือดเต็มปากแบบยุ่นได้
ฮ่าๆๆๆๆ เจอของเด็ดเข้าไปที ตะเกียบคุณพิมนี่เคลื่อนไม่หยุดเลยทีเดียว
สงสัยหลังจากนี้ยุ่นอาจจะซวยอดทานปลาดิบได้ เพราะโดนพิมแย่งกินหมด T_T
รีบเขียนบล๊อกของวันที่สองสามสี่นะจ๊ะ อยากอ่านแล้ววววว
2009/09/12 at 10:36 AM
ฮ่าๆ ก็ต้องขอบคุณ sponsor มากๆค่ะ…เลี้ยงดูอย่างดีชั้นหนึ่งๆๆ ตอนไปเซนไดเอางี้อีกน้าาาาาาาาาาาาาาาา โอ๊ยย สนุกอ่ะ มีความสุขที่สุดเลย รักญี่ปุ่นมากขึ้นๆทุกวันๆๆๆๆๆๆ…วันไหนที่ต้องจากญี่ปุ่นไปนี่ต้องจิกตกแน่ๆ
ปล.วันที่สามน่ากลัวมากก ฮ่าๆๆๆๆ เขียนไม่กินเวลาเท่าไหร่นะช้าง แต่เซ็งตอนย่อรูปนี่ง่ะ เฮ้อออ จะเป็น blogger นี่มันลำบากจีๆ
2009/09/12 at 10:43 AM
ตามไปเที่ยวด้วยคน.. อ่านเพลินเลยครับ
ถ่ายรูปของกินแบบนี้ เอามีดมาแทงกันเลยดีกว่า ^^” น่ากินสุดๆ โดยเฉพาะข้าวกล่อง (บนรถไฟ) ส่วน ซาชิมิ โมริอาวาเสะ ไม่ต้องพูดถึง คีย์บอร์ดเปียกหมดแล้ว :P~~
คุณพิมใช้ windows ใช่ไหมครับ ลองใช้โปรแกรมพวก ACDSee หรือตัวฟรีอื่นๆ ย่อไฟล์ดูครับ ที่มันย่อได้ครั้งละเยอะๆ (batch) หรือถ้าถนัด photoshop ก็ทำ action ขึ้นมา แล้ว automate ได้เลยครับ
^^
2009/09/12 at 12:00 PM
ฮิๆๆๆ เอาปลาดิบมาล่อแมววววว
คุณหมออออ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ…นั่นสิ ลืม ACDSee ไปสนิทเลยยเรา
ยังไงอย่าลืมติดตามตอนต่อๆไปนะคะ เหลือเขียนอีกสามวันอ่ะค่ะ
2009/09/12 at 12:57 PM
ฮ่าๆๆ เอาปลาดิบมาล่อแมววววววววว
ยังไงขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะคุณหมอออ ลืม ACDSee ไปสนิทเรยยยยย
แล้วอย่าลืมมาอ่านของวันที่ 2 3 และ 4 ต่อนะคะ
ปล. แต่ไม่รู้จะเขียนเสร็จวันไหนนนนน :p
2009/09/12 at 1:00 PM
อยากกินปลาดิบบบบบบบบบบบบบบบบ
2009/09/12 at 1:52 PM
ยุ้ยอยากกิน หรือลาเต้อยากกินนนน สารภาพมาเดี๋ยวนี้!!!
2009/09/12 at 9:26 PM
สนุกมากที่สุดเลยค่า คุณพิมน่ารักจัง ช๊อบชอบ ผมทรงนี้น่ารักมั่กๆ อยากไปตัดเลย แต่หน้าไม่ให้ 555 สนุกค่ะ
ชอบอาหารที่ถ่ายมา ไข่กุ้งใสจนจะเห็นลูกกุ้งข้างในร่ะ (อันนี้เราเว่อไปเอง)555
ชอบจังหนุกๆ ไว้มาบ่อยๆนะคะ
อย่างง คุณหมอโยนลิงค์คุณพิมมาให้อ่านนค่าาาาา
^__^
2009/09/12 at 3:47 PM
ฮ่าๆๆ ยินดีค่าาาาาาาาาาา มาบ่อยๆนะค้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
2009/09/12 at 9:27 PM
ปลาดิบที่ญี่ปุ่นน่ากินมากกๆๆๆๆค่ะคุณพิม
อยากให้ที่นี่มีข้าวกล่องบ้าง เบรื่อการทำการขั้นสุดแล้วค่ะ
แล้วนี่ ตจว ที่ญี่ปุ่นเค้าเปนแบบนี้หรอคะ
รู้สึกว่ายังทันสมัย สะอาดสะอ้านมากเลยนะคะคุณพิม
เทียบกะบ้านเรานี่ คนละเรื่องกันเร้ยทีเดียวค่ะ
แล้วจะติดตามตอนต่อไปนะคะ
… จากแฟนคลับเบอร์หนึ่งของบล็อกคุณพิม
2009/09/13 at 1:31 AM
ญี่ปุ่นนี่สะอาดจริงๆว่ะ…เสียเรื่องเดียว เรื่องฝุ่นเยอะ เยอะขนาดว่าทำความสะอาดบ้านตอนเช้า แบบดูดฝุ่นกวาดถูเสร็จเรียบร้อย กลับมาตอนเย็นฝุ่นก็จับเต็มไปหมด ยิ่งใต้เตียงนะ…ถ้าเผลอลืมดูดฝุ่นซักสามวันนี่ ถึงขั้นจับตัวเป็นก้อนปีศาจใหญ่มากกกก
หรือว่ามันฝุ่นเยอะแค่ที่โตเกียวก็ไม่รู้ว่ะ เพราะไปโตยาม่านี่รู้สึกอากาศสะอาดมาก ฝุ่นในห้องก็ไม่มี (ก็แน่ดิ นอนโรงแรมหนิ!!!)
อิจฉาเมกา..บ้านแบบไร้ฝุ่นมากกก ความสะอาดก็นานๆทำทีก็ยังโอเค ชั้นอยากได้บ้านแบบน้านนนนนนนนนนนนนนนนน
2009/09/13 at 6:56 AM
สารภาพว่าไม่ได้อ่านดูแต่รูป น่ากิน อยากกินทุกอย่างงงงง ยกเว้นครัวซอง -*- แต่ชื่อบล็อกนี่แบบว่าหวานๆนี่หมายถึงความสวีทของแกสองคนชิมิ ชั้นรู้
2009/09/13 at 1:35 AM
เก่งมาค่ะฝนนนนน!!! ^_^
2009/09/13 at 6:57 AM
555 ชั้นเพิ่งเห็นที่ไอ้จ๋าเขียน ไอ้บร้าาาา มันพูดหยั่งกะมันอยู่ไทย
ปล. อยากได้ลองกินข้าวกล่องบนรถไฟมั่ง น่ากินมากกกกก ว่าแต่อร่ิอย+แพงมั้ย
2009/09/13 at 1:38 AM
อร่อยมากแกกกกกกกกกกกก ไม่แพงด้วยนะ เมื่อเทียบกับหน้าตา รสชาติ คุณภาพ และปริมาณ อยู่ประมาณพันเยนได้
จริงๆชั้นก็กินข้าวกล่องบ่อยนะ…แบบวันไหนที่ขี้เกียจทำกับข้าว ก็จะบอกให้ยุ่นซื้อกลับบ้านมา ฮ่าๆ แต่ซื้ัอที่เซ้บุ้งอีเล้บุ้ง (คนที่นี่ออกเสียงเซ้เว่นว่าแบบนั้น -*-) ว่ะ ซึ่งแบบรสชาติคนละชั้นนนนน แต่ก็ถูกกว่ามากกกก ราคาอยู่ประมาณสามสี่ร้อยกว่าเยนนเท่านั้น
2009/09/13 at 7:01 AM
โห สุดยอดเลยครับบล๊อกนี้ อ่านแล้วเหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลย สนุกดี ที่สำคัญอ่านแล้วหิวมาก น่ากินจริงๆ หิวๆ
2009/09/13 at 6:14 AM
สวัสดีค่ะน้อง rkcosmos ^_^ พี่ไม่ได้แวะไป blog น้องตั้งนานแน่ะ ตะกี๊แอบแวะไป เจอเมนูขนมจีนน้ำเงี้ยวท้องถึงกะร้องโกรกๆๆเรย พี่ยุ่นแฟนพี่นี่ชอบขนมจีนน้ำเงี้ยวมากกกกกกกกกก สงสั้ยต้องไปวนๆดูแถวร้านเอเชียซะละ เผื่อมีเครื่อง จะได้ทำบ้างงง อร่อยๆๆ
2009/09/13 at 7:13 AM
อิ อิ มีเพื่อนแล้วชื่อ แมวดื้อ เราต้องเอาปลาไปซ่อน ซะแล้ว
น่าหม่ำไปเสียทั้งหมด แฮ่ๆๆๆๆๆๆ
2009/09/14 at 4:41 AM
คูแม่…คุณแมวดื้อ เป็นคูหมอด้วยนะคะ ฮ่าๆ นี่ถ้าอยู่เมืองไทยคงจะเอาคุณเลอศักดิ์ กะคุณเพชรพริ้งไปสมัครเป็นคนไข้
2009/09/14 at 9:32 AM
มะวานไปรับยา…เหนื่อยป่าวค้าาาาาาาาาาา T_T รักคูแม่ที่ซูดเรยยย แล้วหมอแท็บเป็นไงบ้างงง เม้าท์ผ่านอีเมลมาให้ฟังหน่อยยยย วันก่อนโทร.ไปหาน้องแล้วน้องไม่รับ สงสัยมันขึ้นเบอร์ประหลาด
2009/09/14 at 9:36 AM
เฮือกกกก…น่ากันมั่กๆ ตาลายเลยเนี่ย น่าสนุกด้วย งานไม่ได้ทำ อ่านบล็อก โรคจิตคนเดียว ต้องนั่งบังหน้าจอเนี่ย แหะๆๆ..
2009/09/14 at 11:48 AM
อีกแป๊บเดี๋ยวก็ได้มากินแล้วววววววววววววววววววววววว จะพาไปโดนของหร่อยๆให้กลิ้งกลับไทยเรยยยยยยยยยยยยย ขนเงินมาเจ๊อะๆแร้วกัน ฮิๆๆๆ
2009/09/14 at 12:01 PM
ได้เที่ยวแล้วนี่ ^^
2009/09/17 at 1:50 AM
ไหนล่ะตอน 2 ทิ้งช่วงไปนานนะ
เรามีเรื่องกัวลาลัมเปอร์มาเล่าเหมือนกัน ขอเชิญๆ
2009/09/20 at 4:23 PM
บังเอิญผ่านมาครับ ตอนแรกsearch หาเรื่องอื่นอยู่ดีๆ ไม่รู้โผล่มาblogคุณพิมได้ไง อ่านไปอ่านมาเพลินมาก..จนจบเลย
พอดีเคยอยู่ที่ญี่ปุ่นมาก่อนด้วยน่ะครับ เลยเผลอคิดถึงบ้าน ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ครับ
2010/05/05 at 2:45 AM
ขอบคุณนะคะที่แวะเข้ามาอ่าน(แม้จะด้วยความบังเอิญสุดๆก็ตาม >_<)
ช่วงนี้พิมแบบว่างานเข้า ฮ่าๆ ก็เลยไม่ค่อยมีเวลาอัพบล็อกเท่าไหร่ นานน้านจะอัพทีนึง
คุณ project_tue ก็เคยอยู่ญี่ปุ่นหรอคะ ได้กลับมาเที่ยวญปบ้างมั้ยคะเนี่ยะ
2010/05/05 at 9:42 PM